ก่อนจะไปเริ่ม ริวิวเที่ยวจอร์เจียด้วยตนเอง 9 วันของเรา มาทำความรู้จักประเทศ “จอร์เจีย” กันสักหน่อย
ที่ตั้ง : ประเทศจอร์เจียอยู่ในทวีปเอเชีย ซึ่งอยู่ในภูมิภาคคอเคซัส ซึ่งเป็นจุดตัดระหว่างยุโรปตะวันออกและเอเชียตะวันตก
สายการบิน : จากไทยไปจอร์เจีย ไม่มีเที่ยวบินตรง ต้องเปลี่ยนเครื่อง ใช้เวลาเดินทางตั้งแต่ 10 ชม.ขึ้นไป แล้วแต่ระยะเวลาต่อเครื่อง สายการบินที่บินจากไทยไปจอร์เจีย เช่น Air astana, Emirates Airlines, Qatar Airways, Gulf Air, Turkish Airlines, Qatar Airways
วีซ่า : คนไทยฟรีวีซ่า 365 วัน เที่ยวสบายหายห่วง
ค่าเงิน : ค่าเงินของจอร์เจีย คือ ลารี (GEL) 1 Gel ประมาณ 13 บาท สามารถแลก USD หรือ EUR เพื่อไปแลกเงินที่จอร์เจียได้เลย ส่วนร้านอาหารและ Supermarket ใน Tbilisi ใช้บัตรแตะจ่ายได้ทุกที่
ภาษา : ใช้ภาษาจอร์เจียเป็นหลัก ตามร้านอาหารหรือโรงแรมพนักงานพูดภาษาอังกฤษพอได้ นอกเมืองส่วนมากใช้ภาษาอังกฤษน้อยมาก Google Translate ช่วยชีวิตได้
อาหาร : ค่าอาหารตามร้านอาหารพอๆ กับค่าอาหารร้านอาหารที่ไทย ไม่แพงมาก และอาหารจอร์เจียจะเค็มนำหน่อย ต้องทำใจนิดนึง ส่วนในเมืองมีร้านอาหารไทยให้เลือกหลายร้านเลย หาไม่ยาก เผื่อใครคิดถึงอาหารไทย
สภาพอากาศ : เราเดินทางช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ฤดูหนาวคือช่วงเดือนธันวาคม – มีนาคม อุณหภูมิในเมืองเฉลี่ยประมาณ 0-5C ตามเมืองบนเขาประมาณ -10C ช่วงกลางวัน กลางคืนลดต่ำไปอีก
Sim Card : สามารถใช้ Roaming Package หรือ Travel Sim ของค่ายมือถือของไทยได้ หรือสามารถซื้อซิมที่จอร์เจียได้เลย แนะนำค่าย Magti
การเดินทาง :
ในเมือง Tbilisi สามารถใช้ขนส่งสาธารณะได้เลย สะดวกมาก ทั้งรถเมล์และรถไฟใต้ดิน ถ้าเป็น Taxi ที่นี่ใช้แอป Bolt
ส่วนนอกเมือง เช่ารถขับสะดวกที่สุด มีทั้งแบบเช่ารถขับเอง และเช่ารถพร้อมคนขับ (คนขับเป็นไกด์ให้ด้วยในตัว) มีรถระหว่างเมืองแต่อาจจต่อรถไม่สะดวกเท่าไหร่
โดยทริปนี้เราเช่ารถขับเอง เช่ารถจากบริษัท Local และใช้การติดต่อกับคนที่จอร์เจียผ่าน Whatsapp เป็นหลักนะคะ
ปลั๊กไฟ : ใช้ไฟฟ้า 220 V เหมือนกับของประเทศไทย แต่รูปแบบของเต้าเสียบจะไม่เหมือนที่ไทย จะเป็นรูกลมสองรูเป็นเบ้าลึกลงไป ดังนั้นอย่าลืมพก Universal Adapter ไปได้เลย
รู้จักจอร์เจียกันไปบ้างแล้ว ต่อไปเรามาเริ่มทริปกันเลยยยยย
เที่ยวจอร์เจียด้วยตนเอง หน้าหนาว แบบเช่ารถขับ
ทริปของเราทั้งหมด ต้องบอกก่อนว่า เราไม่ได้เดินทางตรงจากประเทศไทยไปจอร์เจียเลยนะคะ เราไปแวะเที่ยวตุรกีก่อน 4 วัน หลังจากนั้นบินจากตุรกีไปที่จอร์เจีย
ตารางวันแรกของเราเลยเริ่มจากบินจากตุรกี และเริ่มเช่ารถที่จอร์เจียตั้งแต่วันที่ 2 ของทริปค่ะ
ทริปเราทั้งหมด 9 วัน เที่ยวแบบเรื่อยๆ ไม่แน่นมาก มีเวลาชิลๆ แวะถ่ายรูปข้างทางได้สบาย ถ้าใครมีเวลาน้อยกว่านี้ อาจจะต้องตัด Mestia ออกค่ะ เพราะว่าเสียเวลาเดินทางค่อนข้างไกล
แพลนเที่ยวจอร์เจีย 9 วัน
Day 1 : Cappadocia (Turkey) – Tbilisi (Georgia) เที่ยวในตัวเมือง Tbilisi
Day 2 : Tbilisi – Gudauri (เช่ารถวันแรก)
Day 3 : Gudauri – Kazbeki
Day 4 : Kazbeki – Kutaisi
Day 5 : Kutaisi – Mestia
Day 6 : Mestia – Ushguli – Mestia
Day 7 : Mestia – Borjomi
Day 8 : Borjomi – Uplistsikhe – Tbilisi
Day 9 : Tbilisi – BKK
ค่าใช้จ่าย สำหรับเดินทาง 2 คน ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน ถ้าไป 3-4 คน หารค่าที่พักและค่าเช่ารถก็จะถูกกว่านี้อีกค่ะ ตอนที่เราเดินทาง 1 Gel ประมาณ 13.2 บาท
ค่าที่พัก 19,050 บาท / 9 คืน ห้องพักระดับกลางๆ ทั้งหมด 9 คืน เรทประมาณ 1800 – 3000 บาท/คืน แล้วแต่เมืองค่ะ
ค่าอาหาร 8,2000 บาท / 9 วัน เรากินที่ร้านเกือบทุกมื้อ มีทำอาหารกินเองบ้าง ส่วนมากจะเป็นมื้อเช้า เพราะว่าส่วนใหญ่ที่พักเป็นห้องแบบอพาร์ทเมนต์ มีครัวสามารถทำกับข้าวได้ ราคาในร้านอาหารก็พอๆ กับราคาเวลาเราเข้าร้านอาหารที่ไทย
ค่าเช่ารถ 12,200 บาท / 7 วัน รถ Subaru Forester
ค่าน้ำมัน 7,350 บาท ขับรถไปทั้งหมดประมาณ 1500 km ค่ะ
ค่าเดินทาง ใน Tbilisi 550 บาท ส่วนมากใน Tbilisi เรานั่งรถเมล์และเรียก Bolt บ้างนิดหน่อย รับส่งจากสนามบินและเวลาขี้เกียจเดิน ราคา Bolt ไม่แพง ค่ารถเมล์ทุกสายราคาเดียว 1 Gel ไปได้ทั้งเมือง
ค่า Sim Card 800 บาท ซื้อคนละซิม ตกซิมละ 400 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 48,150 บาท / 2 คน (คนละ 24,075 บาท)
พร้อมแล้วมาดูรายละเอียดการเดินทางในแต่ละวันกันได้เลย
Day 1 : Cappadocia (Turkey) – Tbilisi (Georgia)
ตามที่ได้บอกไปด้านบน เราแวะเที่ยวตุรกีก่อน ก็เลยบินจากตุรกีมาลงที่ Tbilisi เราบินมาถึง Tbilisi ประมาณตี 5 ผ่าน ตม. แบบสบายๆ ชิลๆ ไม่ถามอะไรเลย ออกมาด้านนอกเราก็ซื้อซิมที่สนามบินเลย เป็นซิมแบบอินเตอร์เนต Unlimited เราซื้อราคาซิมละประมาณ 400 บาท ซื้อซิมเรียบร้อยก็เรียก Bolt ให้ไปส่งที่พัก
ที่พักที่แรก Old Tbilisi apartament Maya (คืนละ 100 Gel) ซึ่งอยู่ในซอยแบบงงๆ หน่อย สามารถเดินไปขึ้นรถเมล์ได้ แต่ว่าเดินไกลนิดนึง ประมาณ 10 นาที เข้าที่พักเรียบร้อย อาบน้ำ นอนพัก ประมาณเที่ยงๆ เราก็ออกไปเดินเล่นในเมือง แล้วก็แลกเงินค่ะ
สถานที่เที่ยวในเมืองส่วนมากอยู่ใกล้ๆ กัน วางแผนดีๆ สามารถเดินเที่ยวได้เรื่อยๆ แบบไม่ไกลกันมาก หลังจากหามื้อเที่ยงกินแถวๆ Freedom Square แล้ว เราก็เลยเดินไปที่ Mother of Georgia เป็นทางเดินฝั่งด้านที่เป็นบันไดขึ้นเขาไป จะเป็นคนละฝั่งกับที่นั่งกระเช้าค่ะ ก็เดินกันหนึ่งเหนื่อย ฮ่าฮ่า
Mother of Georgia
Narikala Fortress
ส่วนขาลง เรานั่งกระเช้าลงค่ะ ถ้าใครยังไม่มีบัตรเดินทางในเมือง สามารถซื้อบัตรที่จำหน่ายตั๋วได้เลย แต่เค้าจะให้เราซื้อ Metromoney Card ซึ่งเป็นบัตรที่สามารถใช้ขึ้นรถบัส รถไฟใต้ดิน และ Ropeway ได้ค่ะ ค่าบัตร 2 Gel ส่วนค่า Ropeway 2.5 Gel ค่ะ ซึ่งถ้าไม่มาซื้อที่จุดนี้ เราสามารถหาซื้อการ์ดได้ที่สถานี Metro ค่ะ
Ropeway จะไปลงที่ Rike Park ลงมาแล้วก็เดินเล่นต่อในสวนได้เลย เดินเล่นไปเรื่อยๆ จนถึงสะพาน Peace Bridge สะพานข้ามแม่น้ำ Mtkvari
Metekhi St. Virgin Church
Clock Tower
หลังจากเดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย เราก็ไปขึ้นรถบัสไปที่ Tbilisi Funicular รถเมล์ราคาเดียวทุกสายทั้งเมือง สะดวกมากๆ เลย
ถ้าเงินในการ์ดหมดสามารถเติมได้ที่ตู้หน้าตาประมาณนี้ค่ะ มีตามป้ายรถเมล์เกือบทุกป้าย เติมไม่ยาก สามารถใช้บัตรแตะจ่ายตอนเติมเงินได้เลย
ไปถึงต้องไปซื้อตั๋วขึ้น Funicular ค่าตั๋วขาละ 10 Gel ไปกลับก็ 20 Gel และมีค่าการ์ด 2 Gel
วิวระหว่างขึ้น Funicular
ด้านบนเป็นสวนสนุก แต่ว่าตอนที่เราไปค่อนข้างร้างมาก แหะๆ ที่ขึ้นมาก็คือ เราเน้นมาดูวิวเมืองมุมสูง
วิวเมืองจากด้านบนดีงาม
กลับลงมาในตัวเมืองก็ค่ำแล้ว ไปหาของกิน เดินเล่นนิดหน่อย แล้วก็กลับโรงแรมพักผ่อน เตรียมตัวเริ่มขับรถเที่ยวพรุ่งนี้ค่ะ
Day 2 : Tbilisi – Gudauri
เช้าวันที่ 2 เรานัดให้ร้านเช่ารถ มาส่งรถให้หน้าที่พัก เราจองจาก VIP Cars เป็นร้านเช่า Local ตอนจองมาไม่ต้องวางมัดจำอะไรค่ะ เราเช่าเป็นรถ Subaru แต่รถเช่าที่จอร์เจียส่วนมากปีจะค่อนข้างเก่า ตรวจเช็คโน่นนี่นั่นเรียบร้อย จ่ายเงินเต็มจำนวน รับรถไปได้เลย
แล้วก็ที่นี่เค้าเป็นแบบน้ำมันมีเท่าไหร่ เติมกลับมาคืนเท่านั้น ก็จะยากนิดนึงตอนเติมน้ำมันก่อนคืนรถ เพราะว่าต้องคำนวณดีๆ ไม่งั้นก็จะเติมขาดๆ เกินๆ ฮ่าฮ่า
วันนี้จุดมุ่งหมายของเราคือไปพักที่ Gudauri แต่ก่อนจะไปถึง Gudauri เราก็แวะเที่ยวตามทางไปหลายที่เลย
The Chronicle of Georgia ไปถึงแต่เช้า ดีมากๆ คนน้อยสุดๆ ยิ่งใหญ่อลังการมาก
Jvari Monastery
Zhinvali Reservoir
Ananuri Fortress
หลังจากขับรถไปแวะเที่ยวเรื่อยเปื่อย เราก็มาถึง Gudauri กันแล้ว เราจองที่พัก Gudauri Loft Apartment (คืนละ 270 Gel) ห้องพักเป็นแบบห้องชุด มีครัวทำอาหารได้
มีสระว่ายน้ำวิวสวยด้วย
ตอนแรกมาพักที่นี่เพราะคิดว่าจะมาขึ้นกระเช้า ขี่สโนว์โมบิล แต่แป้กจ้า เพราะว่าหิมะตกน้อยมาก สกีรีสอร์ทที่นี่ยังไม่เปิดกิจกรรมใดๆ เลย อย่างเศร้า แต่ก็โอเคที่อย่างน้อยก็วิวสวย
Day 3 : Gudauri – Kazbeki
วันนี้ไม่ต้องรีบอะไรมาก เพราะขับรถไปเมืองต่อไปไม่ไกล ตื่นมาทำอาหารเช้าง่ายๆ กินเอง แล้วก็ออกเดินทางไปที่ Kazbeki
ระหว่างทางแวะจอดเที่ยวที่ Russia-Georgia Friendship Monument กันก่อน
จากนั้นขับรถเช็คอินที่พัก Kazbegi Twins (คืนละ 225 Gel) ตอนเราจองที่พักที่วิวดีๆ ส่วนมากเต็มไปหลายที่ เพราะว่าที่พักแต่ละที่มีห้องไม่เยอะ
วิวจากที่พักเป็นวิวภูเขา ตอนเช้าตื่นมานอนดูพระอาทิตย์ขึ้นจากในห้องนอนได้เลย ดีงามมาก
หลังจากแวะเข้าที่พักแล้ว เราก็ขับรถขึ้นไปที่ Gergeti Trinity Church ตอนนี้ถนนทำไว้ดีแล้ว ขับรถขึ้นได้สบาย และตอนที่เราไปหิมะก็ไม่หนาด้วย ขับไปได้เองเลย สะดวกสุดๆ
ทางขับไม่ยากจริงๆ เพราะรถคันจิ๋วคันนี้ยังขับขึ้นมาได้ อิอิ
วิวระหว่างทางตอนลงจากโบสถ์
หลังลงมาจากโบสถ์เวลาเหลือเยอะมาก ไม่รู้จะทำอะไรดี เสิร์ชไปเสิร์ชมา เราก็เลยตัดสินใจขับรถไปเที่ยวที่ Juta ต้องขับไปประมาณ 1 ชั่วโมง ไปถึง Juta เมืองร้างมาก แทบไม่เจอคนเลย แต่เราก็ไม่หวั่น ยังเดินขึ้นไปเที่ยวที่ Fifth Season
วิวหน้าหนาวเป็นแบบนี้นี่เอง เคยเห็นแต่วิวหน้าร้อนในรีวิว
เดินถ่ายรูปเล่นเรื่อยเปื่อย ระหว่างทางก็วิวสวยแวะจอดถ่ายรูปเรื่อยๆ เลย
ตอนลงมาด้านล่างแอบเจอน้องลามาขอของกินด้วย เสียดายไม่มีของกินติดอยู่ในรถเลย หน้าตาน้องเว้าวอนสุดๆ มาเลียกระจกเปียกโชก ฮ่าฮ่า
ขอแนะนำร้านอาหารที่ Kazbeki ร้านนี้เลย “Kazbegi Good Food” เห็นรีวิวดีมากก็เลยไปลอง แล้วก็ดีจริงๆ ที่สำคัญไม่เค็ม ฮ่าฮ่า เท่าที่สั่งมาคืออร่อยทุกอย่างเลย
ส่วนมื้อเย็นวันนี้ ช่วงเย็นเวลาเหลือเยอะมาก ก็เลยไปแวะ Supermarket และร้านของชำ หาซื้อวัตถุดิบมาทำกับข้าวกินเองที่ที่พัก มีเครื่องครัวให้ทำกับข้าวได้สะดวกมาก
Day 4 : Kazbeki – Kutaisi
วันนี้โปรแกรมไม่มีอะไรมาก เราจะขับรถกันยาวๆ ไปถึง Kutaisi ซึ่งเป็นเมืองครึ่งทางก่อนจะไปถึง Mestia ระหว่างทางมีแวะถ่ายรูปเล่นนิดหน่อย ถึงที่พักก็ช่วงเย็นๆ แล้ว คืนนี้เราพักที่ Kutaisi หนึ่งคืน พักที่ Hotel Green Town (คืนละ 115 Gel รวมอาหารเช้า)
Day 5 : Kutaisi – Mestia
ตอนเช้าเราแวะไปถ่ายรูปเล่นที่โบสถ์ พอดีอยู่ข้างที่พักเลยค่ะ เดินไปสบายมาก
วันนี้แทบไม่ได้แวะเที่ยวอะไรเลย ขับรถกันไปยาวๆ ถึง Mestia ช่วงบ่ายๆ วันที่เราไปอุณหภูมิประมาณ -8 ถึง -10
เราพักที่ Beko’s garden Inn (คืนละ 135 Gel) เรานอนที่นี่ 2 คืน ที่พักวิวตรงสวนดีมาก แต่ฮีทเตอร์ในห้องแอบไม่ค่อยอุ่นเท่าไหร่ หนาวพอสมควร เข้าที่พักเรียบร้อย
ที่เลือกที่นี่เพราะวิวในสวนของที่พักสวยมาก
เดินเล่นในเมือง หาข้าวกิน และเรามีภารกิจต้องไปหาที่ปะยางเพราะว่ารถมีสัญญาณเตือนว่าลมยางอ่อน ขับรถหาร้านปะยางในเมืองซึ่งเปิดอยู่ร้านเดียว และคิวยาวมาก
จริงๆ ที่ร้านบอกว่าจะไม่ทำให้เพราะว่าคิวมีหลายคันเลย แต่เราให้เค้าช่วยดูให้ เหมือนยางรถจะมีรอยลมซึมออกมานิดๆ เค้าก็เลยเติมลมมาให้เฉยๆ แต่ไม่ยอมปะให้
แต่เราก็ตื๊อมาก ขับวนไปเวียนมา หลายรอบ จนเค้าบอกว่า ขอกินข้าวแปบนึงเดี๋ยวปะให้ ฮ่าฮ่า ใดๆ ทั้งหมดทั้งมวล พิมพ์ Google Translate คุยกับเค้านะ แฮร่…
เสร็จเรียบร้อยก็พักผ่อนชิลๆ เตรียมตัวเดินทางไป Ushguli พรุ่งนี้ค่ะ
ถ่ายรูปเล่นระหว่างรอคิวปะยาง
Day 6 : Mestia – Ushguli – Mestia
เราจองตั๋วรถที่จะไป Ushguli ตั้งแต่เมื่อวาน ราคาคนละ 70 หรือ 80 Gel นี่แหละ เป็นแบบราคาแชร์ พอถึงเวลานัดวันนี้เราก็มาขึ้นรถ แต่ก็ไม่มีใครมาแชร์รถเลย เค้าก็เลยบอกว่า ต้องการอย่างน้อย 4 คน แต่ถ้าไม่มีใครมา เค้าขอเก็บคนละ 100 Gel แล้วพาไปแบบ Exclusive 2 คนนี่แหละ ก็ต้องจ่ายไปแหละนะ
ระหว่างทางก็นั่งรถโยกไปเยกมา จนถึง Ushguli ใช้เวลาประมาณ ชม. กว่าๆ วิวข้างทางสวยมากกกกก และเป็นทางขึ้นเขาลงเขาไปเรื่อยๆ ทางไม่ได้แย่เท่าที่เราคิดไว้
ถึงที่ Ushguli คนขับก็ให้เวลาเราเต็มที่ เสร็จกี่โมงก็ไปตามเค้าที่คาเฟ่ที่เค้านั่งรอ เราเดินเที่ยวไปถึงท้ายหมู่บ้าน เดินในหมู่บ้านจริงๆ ไม่นานมาก หมู่บ้านเล็กนิดเดียว
แต่นานเพราะมีคุณป้าคนนึงมาชวนเราเข้าไป Museum ซึ่งก็พอเข้าใจได้ว่าเป็นบ้านของคุณป้าน่ะแหละ
เราก็เข้าไปแบบอ่ะ เข้าก็ได้ ไหนๆ ก็ว่าง คุณป้าก็พาทัวร์รอบบ้าน ซึ่งที่บ้านก็จะมีประวัติและของต่างๆ ที่เป็นประวัติศาสต์ของ Mestia คุณป้าดูแลและอธิบายเราดีมาก
ตอนจะออกเราก็จะให้ทิปคุณป้า คือเข้าใจอยู่แล้วแหละ ว่าไมได้ฟรีแน่นอนอยู่แล้ว แต่ใดๆแล้ว พอให้เงินคุณป้า คุณป้ารีบไปเขียนกระดาษเลย ว่าต้องให้เท่าไหร่ ซึ่งก็โดนไปคนละ 20 Gel ต่อรองไปนิดหน่อย ฮ่าฮ่า คุณป้าแอบคิดราคาแรงไปนิส
หลังจากนั้นเราก็นั่งรถกลับมาที่ Mestia และจากการประเมินแล้ว เราว่าเราน่าจะขับรถกันไปเองได้ เพราะถนนไม่ได้แย่ และหิมะก็ไม่ได้เยอะ ลงมาถึงเมืองปุ๊บ เราก็สตาร์ทรถขับรถกันไปทางที่ไป Ushguli อีกรอบ
แต่ว่าเราไม่ได้ขับไปถึงหมู่บ้านนะ เพราะแค่จะขับขึ้นไปแวะถ่ายรูประหว่างทาง เราเล็งไว้หลายจุดเลย อิอิ แวะถ่ายรูปจนแสงหมด ขับรถกลับมาที่ Mestia หาข้าวเย็นกิน แล้วก็กลับเข้าที่พัก
วิวระหว่างทางสวยมาก
Day 7 : Mestia – Borjomi
เช้านี้เราออกจากที่พักแต่เช้า เพราะว่าต้องขับรถทั้งวัน เพราะตอนแรกแพลนเดิม คือเราจะกลับไปแวะนอนที่ Kutaisi แต่จากการหาข้อมูลแล้ว มีกระเช้าให้นั่งขึ้นไปชมวิวได้ที่เดียวที่เปิดช่วงที่เราไป คือที่ Borjomi เมืองอื่นหิมะน้อยมาก เค้าก็เลยยังไม่เปิดกระเช้ากัน
แผนวันนี้เราเลยขับรถยาวๆ ทั้งวันไปที่ Borjomi ขับประมาณ 7 ชั่วโมงครึ่ง รวมแวะกินข้าว มีถ่ายรูปข้างทางบ้างเล็กน้อย ถึงที่พักที่ Borjomi ค่ำๆ เลย
วิวระหว่างทาง
ที่พักคืนนี้ Cosy Apartment (ราคาคืนละ 70 Gel) ที่พักขับรถตาม app ไปแบบงงๆ หน่อย เป็นห้องที่เค้าทำแยกมาจากบ้านของเจ้าของ มาแบ่งให้เช่า โจทย์เราคือ ถูกและต้องมีครัว ก็เลยมาจบที่นี่
Day 8 : Borjomi – Uplistsikhe – Tbilisi
ตอนสายๆ เราเช็คเอาท์และไปขึ้นกระเช้ากันที่ Crystal Ski Arena, Bakuriani ใช้เวลาขับรถไปประมาณ 30-40 นาที ไปถึงคนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ถ้าจำไม่ผิด ค่ากระเช้าน่าจะคนละ 20 Gel
จากจุดที่ลงกระเช้าเราสามารถเดินไปต่อด้านบน เพื่อไปจุดชมวิวได้อีก วิวด้านบนสวยดี
จากนั้นเราก็แวะไป Borjomi Central Park ต้องเสียค่าเข้านิดหน่อยค่ะ ด้านในเป็นสวนเดินเล่นแบบชิลๆ มีจุดที่เค้าให้กรอกน้ำแร่ Borjomi เติมฟรีได้เลย แต่สภาพก๊อกน้ำอาจจะเขรอะๆ ไปนิด แร่ธาตุเยอะแหละนะ ฮ่าฮ่า
ออกจากเมือง Borjomi เราเดินทางต่อไปที่ Uplistsikhe ขับรถประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง ค่าเข้าคนละ 15 Gel
ถ้าอยากจะเดินเที่ยวให้ทั่ว ต้องใช้เวลานานนิดนึง และด้านบนบางจุดลมแรงมาก แรงแบบยืนถ่ายรูปไม่ได้เลย
เสร็จเรียบร้อย ขับรถเข้าเมือง Tbilisi ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เราถึงที่พักช่วงค่ำๆ ที่พักวันสุดท้ายเราจองเป็น Airbnb ห้องใหญ่มาก สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ค่าที่พักคืนนี้ 90 Gel
Day 9 : Tbilisi – BKK
วันสุดท้ายเราไปเก็บตกที่เที่ยวในเมือง Tbilisi อีกนิดหน่อย เพราะว่าวันที่เรามาถึงอากาศไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ไม่ค่อยมีแดด ก็เลยย้ายแพลนเก็บที่เที่ยวมาวันสุดท้ายแทน
Holy Trinity Cathedral
หลังจากนั้นเราก็เรียก Bolt ไปคาร์ฟู เพื่อไปซื้อพวกขนมและช็อกโกแลตเอากลับไปเป็นของฝากค่ะ ช็อกโกแลตที่นี่ถูกและมีให้เลือกเยอะเลย
เสร็จเรียบร้อยกลับไปเอากระเป๋าที่พัก แล้วก็เรียก Bolt ไปสนามบิน เดินทางกลับไทยด้วยสายการบิน Gulf Air แต่เรายังไม่ได้กลับไทยเลยนะ แวะ Transit ที่บาห์เรน 1 วัน ก็เลยแวะเที่ยวบาห์เรนก่อนกลับอีกค่ะ ฮ่าฮ่า เรียกว่าทริปเดียวได้เที่ยวหลายประเทศเลย
จบไปเรียบร้อยกับรีวิวทริปเที่ยวจอร์เจีย 9 วัน ถ้าใครเป็นสายธรรมชาติบอกได้เลยว่าวิวดี และเที่ยวไม่ยาก รอบนี้เที่ยวหน้าหนาวดูวิวหิมะไปแบบอิ่มเอมแล้ว เอาไว้มีโอกาสจะมาลองมาช่วง Spring และ Summer ดูบ้าง วิวน่าจะดีไม่แพ้กัน