ก่อนเราจะไปเริ่ม Road Trip ในฝันของเราที่ประเทศนิวซีแลนด์ เราไปดูกันก่อนดีกว่าว่า สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปเที่ยวนิวซีแลนด์ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ข้อควรรู้ เตรียมตัวก่อนไปเที่ยวนิวซีแลนด์
- การขอวีซ่าไปเที่ยวนิวซีแลนด์
- สภาพอากาศเป็นอย่างไร
- เวลาที่นิวซีแลนด์ต่างกับประเทศไทยเท่าไร
- อาหารการกินที่นิวซีแลนด์
- ที่พักเป็นอย่างไร
- ค่าเงินที่ใช้คืออะไร
- ซิมการ์ด
- การเช่ารถขับเอง
- การขับรถเองที่นิวซีแลนด์
- ปลั๊กไฟ
- ความปลอดภัยระหว่างท่องเที่ยวที่นิวซีแลนด์
ขอวีซ่านิวซีแลนด์
การขอวีซ่า สามารถขอผ่านทางออนไลน์ได้เลยสะดวกและอนุมัติเร็วมาก ของเราหลังส่งเอกสารเรียบร้อย ไม่เกิน 5 วันได้รับวีซ่าทางอีเมล์แล้วค่ะ การขอวีซ่าทำได้ทั้งขอแบบเดี่ยว แบบคู่ แบบกลุ่ม หรือแบบครอบครัว
ของเราขอแบบ Partner คือเราเป็นคนขอหลักและคุณสามีเป็นตัวแถม เวลาวีซ่าอนุมัติก็จะส่งเมล์มาให้เราคนเดียว และวีซ่าจะมาแผ่นเดียวแต่มีชื่อ 2 คน และที่สำคัญจ่ายราคาคนเดียวเท่านั้น เราจ่ายค่าทำวีซ่าไปประมาณ 5,000 กว่าบาท
ส่วนวิธีการยื่นฟอร์มขอวีซ่านั้น สามารถเสิร์ชหาได้เลย มีวิธีบอกละเอียดมากค่ะ และด้วยความเสล่อของเราคือ เราส่งแบบ Paper ทางไปรษณีย์ไปที่ TTS ซึ่งเป็นตัวกลางยื่นขอวีซ่าของนิวซีแลนด์ เพราะว่าเราหวังใจว่าจะได้วีซ่าแบบปริ้นใส่พาสปอร์ตมาให้ แต่…เค้ายกเลิกไปแล้วจ้า
ส่งเอกสารเสร็จทาง TTS ส่งเมล์มาบอกว่า ไม่ต้องส่งพาสปอร์ตมานะ ไม่ใช้ เดี๋ยวส่งคืนให้ทางไปรษณีย์ หลังจากนั้นไม่นาน TTS ก็ส่งพาสปอร์ตมาคืนค่ะ ส่วนเอกสารที่เป็น Paper ทั้งหมดเค้าก็ส่งให้สถานทูตพิจารณาอีกที (เราสามารถ track ดูความเคลื่อนไหวการขอวีซ่าได้จากเว็บของสถานทูต)
วีซ่าผ่านไม่ยาก เตรียมเอกสารครบ แปบเดียวอนุมัติแล้วค่ะ เราใช้เวลาทั้งหมดหลังส่งเอกสารประมาณ 1 อาทิตย์ ได้รับอนุมัติวีซ่าทางอีเมล์ เราได้วีซ่าแบบ Multiple มาประมาณ 2 ปีค่ะ ได้เมล์มาเรียบร้อย เราก็แค่ปริ้นวีซ่าแล้วถือไปตอนเข้า ตม. นิวซีแลนด์ แค่นั้นค่ะ
การผ่าน ตม. ไม่อยากนะ ชิลมากๆ แต่เค้าเข้มงวดเรื่องการนำอาหาร เนื้อสัตว์ พืช ผลไม้ แปลกปลอมเข้าไปที่ประเทศเค้ามากๆ ดังนั้นมีอะไรในกระเป๋าที่เป็นพวกอาหารแจ้งไว้ก่อนเลยดีกว่า (จะมีใบให้เรากรอก declare อาหารที่เรานำติดตัวมาด้วย) เพราะถ้าตรวจเจอแล้วเป็นของต้องห้ามโดนปรับอ่วมแน่นอน ส่วนเราไม่ได้พกอะไรไปเลยค่ะ ปลอดภัยแน่นอน อิอิ
สภาพอากาศ
ตอนที่เราเดินทางคือช่วงสงกรานต์ที่ไทยพอดี ที่นิวซีแลนด์ ในช่วงกลางวันอากาศประมาณ 10-15 องศา ส่วนกลางคืนก็เลขตัวเดียวบางคืนก็ 0 องศา ตื่นเช้ามาน้ำแข็งเกาะหน้ากระจกรถเกือบทุกวัน
แต่แม้จะ 10 องศาแต่ช่วงกลางวันแดดจ้ามาก อย่าลืมครีมกันแดด หมวก และแว่นตากันแดดกันด้วยนะ ซึ่งบางวันเราต้องเดินเที่ยวเยอะมาก แดดร้อนได้ใจทีเดียว อากาศ 10 องศาไม่ได้ช่วยอะไรเลย หน้าไหม้คร่า
อากาศที่นิวซีแลนด์ ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงเร็วมากๆ ดังนั้น ถึงแม้ว่าเราจะดูพยากรณ์อากาศไปแล้ว สุดท้ายก็ต้องลุ้นวันต่อวันอยู่ดี เพราะอากาศที่นี่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลยจริงๆ แต่ถ้าดูพยากรณ์อากาศของวันนั้นเป็นรายชั่วโมงจะแม่นมาก
เวลาแตกต่างจากประเทศไทยเท่าไร
ที่นิวซีแลนด์เวลาจะเร็วกว่าไทย 5 ชั่วโมง (ยกเว้นช่วงเดือนตุลาคม – มีนาคมจะเร็วกว่าไทย 6 ชั่วโมง)
อาหาร
ตามร้านอาหารส่วนมากเป็นอาหารฝรั่งทั่วไป ราคาอาหารที่นี่ค่อนข้างมาตรฐาน คือ ไปเมืองไหนราคาก็พอๆ กันหมด อาหารเช้า พวกพาย แซนด์วิช ประมาณชิ้นละ 5-10 NZD เมนูตามร้านพวกคาเฟ่ อย่าง เซตแฮมเบอร์เกอร์ ประมาณ 13-20 NZD
ถ้าเป็นร้านดินเนอร์ สเต็ก ก็จะที่เมนูละ 20-35 NZD และที่ดีคือ ที่นี่ทุกร้านมี Tap Water ให้ฟรีโดยไม่ต้องสั่ง (เพราะน้ำประปา หรือน้ำก๊อก ที่นิวซีแลนด์ดื่มได้) มาถึงเค้าจะเอาน้ำมาให้เราเลย 1 เหยือกพร้อมแก้ว บางร้านเป็นแบบบริการตัวเองมีมุมน้ำให้ไปหยิบเหยือกและแก้วได้เลย
ส่วนใครขยันทำอาหาร บอกเลยว่า Supermarket คือสวรรค์ เนื้อวัวและเนื้อแกะราคาถูกมาก เอามาทำเองประหยัดเงินค่าอาหารได้เยอะเลยทีเดียว แต่ส่วนตัวเรานั้น เข้าร้านอาหารทุกมื้อจ้า เพราะเวลาทำกับข้าวแล้วของสดต้องเหลือไปสำหรับมื้ออื่นๆ อีก และเราก็ไปแค่ 2 คนด้วย เราขี้เกียจหอบหิ้วอาหารสดย้ายที่ไปด้วย และที่สำคัญขี้เกียจทำอาหาร ใช้เงินซื้อความสะดวกเอาเนาะ ฮี่ฮี่
ที่พัก
ถ้าใครเช่ารถบ้านเรื่องที่พักก็ไม่มีปัญหาอะไร มี Camp Site ให้บริการตลอดทั้งทริป มี app ให้โหลดเอาไว้ดูจุดบริการ Camp Site ได้ ก็แค่วางแผนล่วงหน้าว่าเราจะขับไปถึงเมืองไหน และแต่ละที่มี Camp Site ให้บริการตรงไหนบ้าง
ส่วนใครนอนโรงแรมแบบเรา โรงแรมที่นี่จะเป็นโรงแรมเล็กๆ ไม่หรูหราอะไรมาก ยกเว้นในเมืองใหญ่ๆ จะมีเครือโรงแรมดังๆ แต่เราใช้งบอย่างประหยัด นอนโรงแรมเล็กก็พอ อิอิ ในห้องมีเครื่องอำนวยความสะดวกพื้นฐานให้ครบ
ถ้าใครอยากได้ราคาประหยัดๆ หน่อย ส่วนมากเป็นแบบ Shared Bathroom ถ้าเป็น Private Bathroom ก็จะราคาสูงขึ้นมาหน่อย ที่เราจองส่วนมากแบบ Private Bathroom เฉลี่ยคืนละไม่เกิน 2,500 บาท ค่ะ หลายๆ ที่มีครัวกลางให้ใช้ด้วย สามารถซื้อของสดไปทำอาหารได้ หรือไม่ก็มีครัวเล็กๆ ในห้องเลย ทำอาหารได้นิดหน่อยแบบกลิ่นไม่แรงมาก
อีกหนึ่งตัวเลือกที่ดี คือ Airbnb เพราะบางเมืองอย่าง Lake Tekapo ราคาประหยัดกว่านอนโรงแรมเยอะเลย
ค่าเงินนิวซีแลนด์
ที่นิวซีแลนด์ใช้ค่าเงินเป็น NZD (New Zealand Dollar) ตอนที่เราไป 1 NZD ประมาณ 21 บาทกว่าๆ ใครไม่อยากแลกเงินไป ใช้บัตรเครดิตหรือเดบิตได้เลย เพราะรับบัตรทุกร้าน แต่ว่าบางร้านเล็กๆ อาจจะมีชาร์จบ้างแล้วแต่ร้าน
ส่วนมากถ้าชาร์จเค้าจะแจ้งเราก่อนว่ามีชาร์จเพิ่มนะโอเคมั้ย เราก็แลกเงินไปประมาณนึง ที่เหลือใช้บัตรเดบิต All Fee ก็ถือว่าโอเค สะดวกดี เวลารูดบัตรที่นี่ เค้าจะให้เราเสียบบัตรเอง หรือจะ Pay Wave ก็ได้ (อันนี้ยังงงๆ บางร้านเราก็ Pay Wave ผ่าน บางร้านก็ไม่ผ่าน ทั้งๆ ที่เครื่องรับ Pay Wave นะ) เวลาเสียบบัตรแล้ว ก็จะขึ้นให้กด Pin ซึ่งบัตรเราไม่มี Pin กด Enter แล้วรอเซน Slip ได้เลย
ซิมการ์ด
ทริปนี้เราใช้ Sim2Fly ของ AIS เครื่องนึง จากที่ใช้ คือ จับสัญญาณของค่าย Spark ของที่นิวซีแลนด์ ส่วนอีกเครื่องเราซื้อซิมของ Vodafone ตอนที่ออกจาก Gate มาจะมีเคาน์เตอร์ของแทบทุกค่าย ถ้าจะซื้อของ Vodafone ให้ซื้อจากด้านในเลยนะ เพราะว่าถูกกว่าแหละ ของเจ้าอื่นไม่รู้เหมือนกันว่าเท่ากันมั้ย เพราะไม่ได้ดูราคา แหะๆ
ซึ่งจากการใช้งานของ Vodafone สัญญาณค่อนข้างครอบคลุมกว่า แต่บางพื้นที่ก็อับสัญญาณ เดี้ยงคู่ ฮ่าฮ่า ส่วนมากช่วงที่ขับรถแถว West Coast จะไม่ค่อยมีสัญญาณ
การเช่ารถขับเองที่นิวซีแลนด์
มาเที่ยวนิวซีแลนด์ ถ้าจะเที่ยวให้ทั่ว การเช่ารถขับเองเป็นสิ่งที่สะดวกที่สุด ทริปนี้เราไปกัน 2 คน ก็เลยเช่าแค่รถเก๋งธรรมดา เพราะถ้าเช่าขับรถบ้านราคาแพงไปแล้วก็ไม่ค่อยคล่องตัวสำหรับ 2 คนเท่าไหร่ บริษัทเช่ารถมีเยอะมาก อันนี้เลือกกันได้ตามชอบเลย
หลักๆ นอกจากราคาแล้ว บางบริษัทจะเลือกได้ว่าจะเอารถอายุกี่ปี บางที่ราคาถูกแต่รถค่อนข้างเก่า ที่เราเช่าเลือกรถไม่เกิน 3 ปี อย่าลืมซื้อประกันกันด้วยนะจ๊ะ และแน่นอนเราเลือกแบบ Full Coverage ไปเลย เพื่อความสบายใจ
ส่วนใบขับขี่เราสามารถใช้ใบขับขี่ของเราที่ไทยได้เลย เพราะว่ามีข้อมูลภาษาอังกฤษกำกับอยู่แล้ว ไม่ต้องไปทำใบขับขี่สากลค่ะ และที่สำคัญอีกอย่างของการจอง คือ เจ้าของบัตรเครดิตที่ใช้จองต้องไปแสดงตัวด้วย แต่คนจองกับคนขับเป็นคนละคนได้ ไม่มีปัญหาค่ะ
การขับรถ
เรื่องสำคัญของทริปนี้เลย ที่นี่ขับรถเหมือนบ้านเรา พวงมาลัยขวาเหมือนกัน ป้ายจราจรชัดเจน ทางเรียบ ถนนดี ขับง่าย และที่สำคัญมี Speed Limit ในเมือง 30-50 km/hr นอกเมือง 100 km/hr ห้ามขับเกินนะจ๊ะ แต่เท่าที่ขับมา เราขับร้อยเป๊ะ มีรถแซงไปตลอดอ่ะ ฮ่าฮ่า
ถ้าขับช้าเวลามีทางให้หลบช่วยหลบให้รถหลังแซงด้วยนะ ไม่งั้นอาจจะโดนโทรแจ้งตำรวจได้ เค้าจะมีแบบโทรไปฟ้องตำรวจได้ ขับเร็วเกิน ขับช้าเกิน ขับรถไม่ดี โดนหมดอ่ะ อันนี้บริษัทรถเช่าแจ้งเรามาตอนไปรับรถแหละ
ขับแรกๆ ก็เกร็งๆ กังวลกลัวทำผิดกฎบ้านเค้าอ่ะนะ และที่นี่วงเวียนเยอะมาก บางวงเวียนคือ แทบจะเรียบไปกับพื้น มองแทบไม่เห็น ต้องดูป้ายให้ดีๆ และทางฝั่ง West Coast คือทางนี่โค้งแล้วโค้งอีก ใครเมารถติดยาดม ยาอม ยาหม่อง ยาแก้เมารถ ขนไปให้หมด
แล้วทางนอกเมืองเป็นเลนสวนเกือบทั้งหมด เวลาขับสวนกับรถบรรทุกทีนี่หัวใจจะวาย เค้าขับสาดมาทุกโค้งไม่มีชะลอ แต่เค้าคงขับกันจนชินแล้วหละ รถเจ้าถิ่นนี่ขับเข้าโค้งกันได้เฟี้ยวฟ้าวมาก ไม่มีแตะเบรกนะฮะ
ส่วนการเติมน้ำมัน ปั๊มที่นี่บริการตัวเอง 100% แต่ก็ไม่ยาก จอดรถเอาที่เติมมากดเติมน้ำมัน เติมเสร็จดูด้วยว่าหัวจ่ายเราเลขอะไร เดินเข้าไปจ่ายเงินบอกเลขหัวจ่ายเค้า แค่นี้ก็เรียบร้อย บางเส้นทางจะไม่มีปั๊มเลย ศึกษาเส้นทางกันก่อนเดินทางด้วยนะ เอาให้ชัวร์วันไหนต้องขับไกลๆ เติมเต็มถังจากตัวเมืองไปเลย สบายใจหายห่วง
ปลั๊กไฟ
ปลั๊กที่นิวซีแลนด์เป็นแบบ 3 ขา เป็นเต้าเสียบเฉียงๆ ดังนั้นห้ามลืมเอา Adapter ไปเด็ดขาด แนะนำพกหัวแปลงแบบ Universal ไปพร้อมกับปลั๊กพ่วง 1 อันนะคะ
ความปลอดภัยระหว่างท่องเที่ยว
ก่อนไปนั่งหารีวิวอ่านเยอะมาก และก็เจอกระทู้แบบโดนทุบกระจกขโมยของหลายกระทู้เลย ดีที่ตอนเราไปทุกอย่างราบรื่นไม่มีปัญหาอะไร บางสถานที่ตามจุดจอดถ่ายรูป เราเห็นมีป้ายเตือนบ้าง บางที่ ให้ระวังขโมย ซึ่งเราควรป้องกันไว้ก่อนย่อมดีที่สุด
ดังนั้นอย่าเอาของมีค่าวางไว้ที่เบาะรถเด็ดขาด แม้ว่าเราจะลงไปถ่ายรูปแค่แปบเดียวก็ตาม ส่วนกลางคืนเข้าที่พักก็อย่าทิ้งกระเป๋าไว้ในรถ เอาของเข้าห้องไปให้หมดเลยค่ะ เพราะเคยอ่านเจอเคสจอดรถไว้ในที่จอดในร่มแบบเสียเงิน ยังโดนขโมยของไปหมดเลย ดังนั้นอย่าทิ้งของไว้ในรถดีที่สุดค่ะ
หลังจากเตรียมตัว และรู้ สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยวนิวซีแลนด์ กันพร้อมแล้ว เราจะออกเดินทางกันเลย ตามอ่านรีวิว New Zealand Road Trip กันต่อได้ที่นี่เลยค่ะ