รีวิว Noboribetsu ด้วยตนเอง เที่ยวญี่ปุ่น ฮอกไกโดหน้าหนาว

noboribetsu

ฮอกไกโดเป็นอีกหนึ่งทีท่องเที่ยวสุดฮิตสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในฤดูหนาว หลายๆคนคงอยากไปสัมผัสหิมะกันแน่นอน บอกเลยว่ามาฮอกไกโดไม่ผิดหวังแน่นอน หิมะตกตลอดทริป จนร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว ฮ่าฮ่า ทริปนี้เราไปกันทั้งหมด 7 วัน 6 คืน ช่วงที่ส้มไปคือช่วงก่อนปีใหม่ 1 อาทิตย์ วันที่ 25 ธค. – 1 มค. ค่ะ ดังนั้นทุกที่ที่ไปก็จะเป็นบรรยากาศปีใหม่ หิมะตก บรรยากาศดีสุดๆไปเลย

สรุปทริปทั้ง 7 วัน 6 คืน ตามนี้เลยค่ะ ไม่ได้เช่ารถขับนะคะ ทั้งหมดเดินทางด้วยรถไฟ
Day 1 : DMK – New Chitose Airport – Hakodate
Day 2 : Hakodate – Noboribetsu – Sapporo
Day 3 : Asahikawa
Day 4 : Otaru
Day 5 : Sapporo (ตามแพลนต้องไปเที่ยว Tomamu แต่ไข้ขึ้นเลยอดไป T^T)
Day 6 : Sapporo
Day 7 : New Chitose Airport – DMK

รีวิวฮาโกดาเตะ (Hakodate) >>>
รีวิวสวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) >>>
รีวิวโอตารุ (Otaru) >>>
รีวิวซัปโปโร (Sapporo) >>>

รีวิวเที่ยวหน้าหนาวฮอกไกโด : ฮาโกดาเตะ – โนโบริเบทสึ – ซัปโปโร

เช้าวันที่ 2 Check out กันแต่เช้าตรู่ เราตั้งใจมากกับการไปเดินตลาดเช้าอันเลื่องชื่อของ Hakodate แต่…..หิมะตกแบบมืดฟ้ามัวดินมาก เรามีหรือจะยอมแพ้ ลุยไปเลยจ้า สภาพตอนเราเดินไปสถานี JR หนาวมาก บรื๋อออออ…..

ลากกระเป๋าค่อยๆเดินไปที่สถานี Hakodate ไปซื้อตั๋วเพื่อไป Noboribetsu พยายามจะซื้อตั๋วแบบ Reserved Seat แต่เต็มหมด ไม่เป็นไร Non-Reserve ก็ได้ ซื้อตั๋วเสร็จเราก็ไปฝากกระเป๋าที่ชั้น 2 ของสถานี JR ที่ฝากกระเป๋ามีค่อนข้างเยอะเลย ฝากกระเป๋าเรียบร้อยเราก็เดินไปตลาดเช้ากัน ตลาดอยู่ใกล้ๆสถานีเลยค่ะ เดินไปแปบเดียวก็ถึงแล้ว

blank

ตอนไปถึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ มีทัวร์กลุ่มเล็กๆ แค่ 2-3 กลุ่ม เดินก็เหงาๆนิดนึง ของที่ขายส่วนมากก็เป็นอาหารทะเลสด วางไว้ไม่ต้องแช่เย็นก็เหมือนแช่แข็งเลย เพราะว่าอุณหภูมิ -7 นี่มันตู้เย็นชัดๆ ปูตัวใหญ่ หอยเชลล์ ปลาหมึก อยากเอาไป นึ่ง ไปปิ้ง บอกทางร้านได้เลย

Hakodate Morning Market
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ
ตลาดเช้า Hakodate

แต่สิ่งที่เรามาตามหา ไม่ใช่ของสดแต่อย่างใด บอกแล้วว่าของสดไม่ใช่ทางเราเท่าไหร่ เรามาตามหาหมึกเส้นกันคร่า ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี แต่เคยอ่านเจอเค้าบอกอร่อยมาก เราก็เลยมาตามหา และแล้วก็เจอ ร้านอยู่ท้ายๆซอยหน่อย หน้าตาหมึกที่เราตามหาเป็นแบบนี้ เป็นหมึกสดที่เหมือนเอาไปอบ แต่ยังไม่แห้ง ปลาหมึกยังเนื้อนุ่มๆ รสหวานของปลาหมึกยังอยู่เลย เอาเป็นว่ามันอร่อยมากจริงๆ กินแล้วหยุดไม่ได้

ของกินฮาโกดาเตะ
รีวิวตลาดเช้าฮาโกดาเตะ

หลังจากได้ปลาหมึกเรียบร้อย เราก็มุ่งหน้าไปจุดหมายต่อไป ร้าน Petite Merveille ที่ Red Brick Warehouse เดินกลับมาที่สถานี Hakodate แล้วนั่ง Tram ไปลงสถานี Jujigai

แต่…แต่…แต่…เราติดอยู่บน Tram นานมาก หิมะตกหนักจนท่วมราง รถก็เลยวิ่งไปได้ทีละนิดๆ ต้องถอยหลัง แล้วก็เดินหน้าใหม่ พยายามฝ่าหิมะหนาๆ ไปได้ทีละคืบ ดูเวลาแล้วน่าจะไม่ทันขึ้นรถไฟแน่ เราก็เลยลงเดินเพื่อรีบไปซื้อขนมที่ร้าน แล้วหิ้วกลับไปกินที่อื่นแล้วกัน ขากลับไปสถานีไม่ต้องคิด รีบขนาดนี้ แท็กซี่อย่างเดียวจ้า ทุ่มเทแค่ไหนกับเรื่องของกิน ฮ่าฮ่า

blank

สภาพหิมะตก ณ เช้าวันนั้น หนาวมาก เดินกว่าจะไปถึง Red Brick Warehouse หน้าชามาก เดินจมหิมะไปครึ่งแข้งอีกต่างหาก กางเกงเปียก ฮ่าฮ่า

ร้าน Petite Merveille ของเด็ดต้องนี่เลย Mel Cheese อันเล็กๆ มีหลายรสเลย และมันอร่อยมาก คุ้มค่าแก่การทุ่มเท อันนี้ส่วนตัวเลยนะ เราว่าอร่อยกว่าของ Snaffle’s อีกอ่ะ แต่ก็แล้วแต่คนชอบ ใครไปอยากให้ไปลองจริงๆ

blank

เราว่ามันดี… นอกจากชีสเค้กแล้ว เราซื้อ Pudding แล้วก็ Cream Puff มาด้วย Pudding โอเคเลย อร่อยกว่าอีกหลายๆเจ้า แต่ Cream Puff อันนี้เฉยๆ ไม่ได้อร่อยมาก

blank

หลังจากบึ่งแท็กซี่กลับมาที่สถานี Hakodate รีบวิ่งไปเอากระเป๋าแล้วขึ้นรถไฟแบบหอบแฮ่ก ขึ้นไปถึง ไม่มีที่นั่งเหลือเลย ที่ยืนยังแทบไม่มี หึหึ ยืนกันไปยาวๆ จนถึง Noboribetsu เลย ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งได้ค่ะ เมื่อยมาก T^T

blank

ออกจาก Hakodate ตอน 10.00 ถึง Noboribetsu เกือบๆบ่ายโมง ตามแพลนเราจะอยู่เที่ยวที่นี่ 4-5 ชั่วโมงแล้วค่อยต่อรถไฟไป Sapporo ค่ะ

ไปถึงสถานี เราก็ไปหาอะไรกิน ซึ่งแถวนั้นไม่ค่อยมีอะไรกินเลย T^T จากนั้นก็ไปฝากกระเป๋า แต่…ตู้ฝากกระเป๋าแบบหยอดเหรียญเต็มหมดเลย ไม่เป็นไรยังมีเคาน์เตอร์รับฝากอยู่ข้างๆ แต่…เค้าปิดเร็วอ่ะ น่าจะประมาณ 4 โมงเย็น แล้วตอนนั้นก็จะบ่ายโมงกว่าแล้ว เราเลยลากกระเป๋าไปเที่ยวด้วยเลย กระเป๋าแค่ 20 นิ้ว ไม่น่าเป็นปัญหา ลากกระเป๋ามารอรถบัสเพื่อไปเที่ยวที่ หุบเขานรก (Jigokudani) รถมีทุก 15 นาที แต่ว่าถ้าจะแวะหมู่บ้านนินจา จะมีแค่บางรอบเท่านั้น ตั๋วสามารถซื้อที่สถานี หรือจ่ายเงินที่คนขับตอนลงก็ได้ค่ะ ถ้าใครมาหลายคนนั่งแท็กซี่ก็สะดวกดี ราคาไม่แพงมาก แท็กซี่จอดรอใกล้ๆที่ขึ้นรถบัสเลยค่ะ

blank

นั่งรถไปไม่นานมากก็ถึงป้าย Noboribetsu Onsen ลงไปที่สถานีมีที่ฝากกระเป๋าด้วย สบายละทีนี้ ฝากกระเป๋าเสร็จก็เดินไปหุบเขานรกกันเล้ยยย ถ้าไม่รู้ต้องเดินไปทางไหน สอบถามเจ้าหน้าที่ ที่สถานีได้ค่ะ เดินประมาณ 10-15 นาทีได้ จริงๆ ไม่ไกล แต่หิมะตก หนาว และทางลื่นด้วย เพราะว่าเป็นเนินเกือบตลอดทาง เลยทำให้เดินได้ช้า

blank

และแล้วเราก็มาถึงหุบเขานรก (Jigokudani) คนเยอะใช้ได้เลย มาถึงไม่ต้องคิดอะไรมาก เดินๆตามเค้าไป ลืมบอกไปว่าที่นี่หนาวมาก วันที่เราไป ออกจาก Hakodate แค่ -7 ที่ Sapporo แค่ -4 แต่ที่นี่ -11 เลย หนาวแบบเย็นยะเยือกไม่มีลมยังหนาวมาก

เดินสูดกำมะถันกันเล่นๆ ไปยาวๆ วิวสวยแปลกตาดี แต่ที่ยากที่สุดคือ ต้องถอดถุงมือออกมาถ่ายรูป ทรมานมากจริงๆ ไปดูวิวรอบๆกันดีกว่า

blank
blank

หลังจากชมวิวกันเต็มอิ่มแล้ว ตอนแรกจะไปแช่เท้าที่ Oyunuma Natural Footbath ซะหน่อย แต่มืดแล้ว ใช้เวลาอยู่ที่นี่นานไปหน่อย ก็เลยเปลี่ยนแผนต่อรถไฟกลับ Sapporo กันเลยดีกว่า พอพระอาทิตย์ตกยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่ บรื๋อออออ…

นั่งรถไฟจาก Noboribetsu มาถึง Sapporo ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง เรามาถึง Sapporo กันก็เกือบๆหกโมงเย็น ตั้งแต่วันนี้เราจะพักกันที่ Sapporo ยาวๆ กันจนจบทริปเลย เราจองที่พักไปไว้ที่ APA Hotel Sapporo Susukino-Ekimae อยู่ติดกับสถานีใต้ดิน Hosuisusukino ออกทางออก 3 ขึ้นมาเจอโรงแรมเลย ถือว่าเดินทางสะดวกเลย เพราะห่างจากสถานี JR Sapporo มาแค่สถานีเดียว แล้วก็จากโรงแรมเดินไปแถว Susukino ได้สบายๆ แถมได้โรงแรมยังมี Lawson ด้วย เป็นอีกโรงแรมที่แนะนำเลยค่ะ

Lobby ไฮโซ หรูหรา เช็คอินเรียบร้อย เราก็รับกระเป๋าใบใหญ่ที่เราส่งมาไว้ที่โรงแรม ทีนี้มาดูห้องกันบ้างดีกว่า ห้องไม่เล็กมาก อุปกรณ์ เครื่องใช้ ครบครัน เก็บของเรียบร้อย คืนนี้ไม่มีคิวทำอะไรแล้ว ไปหาของกินโลดดดด…..ดิ่งไป Susukino กันเลยฮ้า เดินไปจากโรงแรมได้เลยประมาณ 10 นาที

เริ่มที่ร้านแรกกันเลย Soup Curry Suage+

Soup Curry เป็นอาหารดังของ Sapporo เลยนะ ใครมาไม่ได้ลองนี่ถือว่าพลาด อิอิ เสิร์ชใน Google Map เดินไปตามแมพ ตรงเป๊ะ…ร้านต้องเดินขึ้นไปชั้น 2 ไปถึงคิวไม่ยาวมากค่ะ รอคิวแค่ 20 นาทีเอง ที่ร้านจะให้เราเลือกว่า Soup Curry จะใส่เนื้ออะไร หมู ไก่ เนื้อแกะ หรือผักล้วน แล้วก็มีให้เลือกระดับความเผ็ด และเพิ่ม Topping ได้ตามใจ แนะนำว่าเลือกเผ็ดสุดไปเลยนะ เพราะไม่เผ็ดมาก ไม่งั้นรสชาติไม่เข้มข้นเท่าไหร่

blank

ส่วนตัวชอบร้านนี้มาก อร่อยโดนใจสุดๆ โดยเฉพาะมันฝรั่งที่ใส่มาในแกง เปลือกมันกรอบๆ หน่อย อันนี้เราสั่งข้าวเพิ่มท็อปปิ้งชีสลงไปด้วย แต่จากที่ลองกินแล้ว การมีชีสกับไม่มีชีส ไม่รู้สึกอะไรเลย หึหึ แล้วก็อย่าลืมลองสั่งเครื่องดื่ม Lassi กินกันด้วยนะ อร่อย

blank
blank

กินอิ่มเรียบร้อย ขากลับเดินผ่านร้าน Pudding พุ่งตัวเข้าไปแบบไม่คิดอะไรเลย Pudding มีหลายแบบมาก เลือกไม่ถูก เลยสั่งมา 3-4 อย่าง

blank

ทยอยกินวันละขวด สองขวด สรุปว่า รสชาเขียวอร่อยสุดเลย…อันอื่นก็โอเค แต่โดยรวมเราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แบบ Original ชอบของ Petite Merveille ที่ซื้อมาจากฮาโกดาเตะมากกว่า ^3^

จบแล้ว…ไว้เจอกันใหม่บทความหน้าค่ะ

รีวิวฮาโกดาเตะ (Hakodate) >>>
รีวิวสวนสัตว์อาซาฮิยาม่า (Asahiyama Zoo) >>>
รีวิวโอตารุ (Otaru) >>>
รีวิวซัปโปโร (Sapporo) >>>